วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การทำปุ๋ยหมัก


1. ปุ๋ยหมัก คืออะไร ปุ๋ยหมัก คือ ปุ๋ยอินทรีย์ หรือปุ๋ยธรรมชาติชนิดหนึ่งที่ได้มาจากการนำเอาเศษซากพืช เช่น ฟางข้าว ซังข้าวโพด ต้นถั่วต่างๆ หญ้าแห้ง ผักตบชวา ของเหลือทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม ตลอดจนขยะมูลฝอยตามบ้านเรือนมาหมักร่วมกับมูลสัตว์ ปุ๋ยเคมีหรือสารเร่งจุลินทรีย์เมื่อหมัก โดยใช้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว เศษพืชจะเปลี่ยนสภาพจากของเดิมเป็นผงเปื่อยยุ่ยสีน้ำตาลปนดำนำไปใส่ในไร่นาหรือพืชสวน เช่น ไม้ผล พืชผัก หรือไม้ดอกไม้ประดับได้


2. ประโยชน์ของปุ๋ยหมัก


1. ช่วยเพิ่มปริมาณอินทรีย์วัตถุให้แก่ดิน ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์


2. ช่วยเปลี่ยนสภาพของดินจากดินเหนียวหรือดินทรายให้เป็นดินร่วน ทำให้สะดวกในการไถพรวน


3. ช่วยสงวนรักษาความชุ่มชื้นในดินได้ดีขึ้น


4. ทำให้การถ่ายเทอากาศในดินได้ดี


5. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ปุ๋ยเคมีและสามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้


6. ช่วยกระตุ้นให้ธาตุอาหารพืชบางอย่างในดินที่ละลายน้ำยากให้ละลายน้ำง่ายเป็นอาหารแก่พืชได้ดีขึ้น


7. ไม่เป็นอันตรายต่อดินแม้จะใช้ในปริมาณมากๆ ติดต่อกันนานๆ


8. ช่วยปรับสภาพแวดล้อม เช่น กำจัดขยะมูลฝอยและวัชพืชน้ำทั้งหลายให้หมดไป


3. วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำปุ๋ยหมัก (ขนาดกว้าง X ยาว X สูง = 2 X 4 X 1.2 เมตร)1. เศษพืช 1,000 กก.2. มูลสัตว์ 200 กก.3. ปุ๋ยยูเรีย 2 กก.4. สารเร่งจุลินทรีย์ 1 ชุด 5. หน้าดิน 150 - 200 กก.6. เครื่องมือการเกษตร เช่น จอบ พลั่ว บัวรดน้ำ ส้อมสำหรับกลับกองปุ๋ย ฯลฯ



วิธีการทำปุ๋ยหมัก1. นำเศษพืชมาเรียงให้ได้ขนาดขนาด กว้าง X ยาว X สูง = 2 X 4 X 0.3 เมตร2. ขึ้นย่ำพร้อมรดน้ำให้ชุ่ม3. ใส่มูลสัตว์ 50 กก. แล้วตามด้วยปุ๋ยยูเรีย 1/2กก.4. ราดสารเร่งจุลินทรีย์ 50 ลิตร (เตรียมสารเร่งทั้งหมด 200 ลิตร แบ่งใส่ 4 ชั้น)5. ทำชั้นที่ 2 - 4 เหมือนชั้นแรก6. ชั้นบนสุดใช้หน้าดินหรือปุ๋ยคอกโรยให้หนา 1 - 2 นิ้ว7. เอาทางมะพร้าวหรือผ้าพลาสติกคลุมเพื่อรักษาความชื้นและกันสัตว์มาคุ้ยเขี่ย



5. การดูแลรักษาหลังกองปุ๋ยหมักเสร็จแล้ว1. ดูความชื้นในกอง ถ้าแห้งไปให้รดน้ำกองปุ๋ย ถ้าแฉะไปให้กลับกองปุ๋ย2. กลับกองปุ๋ยหมัก เพื่อให้ระบายความชื้นและถ่ายเทอากาศดี จะทำให้จุลินทรีย์ทำงานได้ดีขึ้น และเศษพืชกลายเป็นปุ๋ยหมักได้เร็วขึ้น ควรกลับกองทุก 7 - 14 วัน



6. การพิจารณาดูว่ากองปุ๋ยหมักใช้ได้แล้วหรือยัง1. สีของเศษพืชจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ2. อุณหภูมิภายในกองปุ๋ยและภายนอกกองใกล้เคียงกัน3. เศษพืชมีลักษณะอ่อนนุ่มยุ่ยไม่แข็งกระด้าง4. ต้นพืชที่มีระบบรากลึกเกิดขึ้นในกองปุ๋ยหมัก5. ดมดูจะมีกลิ่นคล้ายกลิ่นดินไม่เหม็นฉุน6. ส่งวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการเพื่อดูอัตราส่วนระหว่างคาร์บอนต่อไนโตรเจน ถ้ามีค่า เท่ากับ 20:1หรือน้อยกว่าแสดงว่ากองปุ๋ยหมักใช้ได้แล้ว




7. ขอรับการสนับสนุนสารตัวเร่งปุ๋ยหมักได้ที่สถานีพัฒนาที่ดินเชียงราย หรือสำนักงานเกษตร อำเภอทุกอำเภอ